เมนู

2. ทุติยวิหารสูตร


วิหารอนุปุพพวิหารสมบัติ 9 ประการ


[237] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอนุปุพพวิหาร
สมาบัติ 9 ประการนี้ เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ก็อนุปุพพวิหารสมาบัติ 9 ประการเป็นไฉน เรากล่าวว่า กาม
ทั้งหลายย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับกามทั้งหลายได้แล้ว ๆ
อยู่ ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึง
ฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า กามทั้งหลาย
ย่อมดับในที่ไหน และใครดับกามทั้งหลายได้แล้ว ๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้
เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนอาวุโส
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุ
ปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขเกิดแก่วิเวกอยู่ กามทั้งหลาย
ย่อมดับในปฐมฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับกามได้แล้ว ๆ อยู่ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เธอไม่เป็นผู้โอ้อวดไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชม
ยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ดีแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไป
นั่งใกล้.
เรากล่าวว่า วิตกและวิจารย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใด
ดับวิตกวิจารได้แล้ว ๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับ
สนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใด
พึงถามอย่างนี้ว่า วิตกและวิจารย่อมดับในที่ไหน และใครดับ

วิตกวิจารแล้ว ๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลาย
พึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุ
ทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มี
วิตกวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแก่สมาธิอยู่
วิตกวิจารย่อมดับในองค์ฌาน และท่านเหล่านั้นดับวิตกวิจาร
ได้แล้ว ๆ อยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยา
เป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้วพึงนมัสการ กระทำ
อัญชลีเข้าไปนั่งใกล้.
เรากล่าวว่า ปีติย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับปีติได้
แล้ว ๆ อยู่ ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว
ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า ก็ปีติ
ดับในที่ไหน และใครดับปีติได้แล้ว ๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ ไม่เห็นผู้นี้
เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัย
นี้ มีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติ
สิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้
ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข ปีติย่อมดับในองค์ฌานนี้
และท่านเหล่านั้นดับปีติได้แล้ว ๆ อยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็น
ผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว
ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้.
เรากล่าวว่า อุเบกขาและสุขดับในที่ใด และท่านเหล่าใด
ดับอุเบกขาและสุขได้แล้ว ๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว

ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใด
พึงถามอย่างนี้ว่า ก็อุเบกขาและสุขย่อมดับในที่ไหน และใครดับ
อุเบกขาและสุขได้แล้ว ๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลาย
พึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุ
จตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัส
โทมนัสก่อน ๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อุเบกขา
และสุขดับในองค์ฌานนี้แล ท่านเหล่านั้นดับอุเบกขาและสุขได้
แล้ว ๆ อยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยา
เป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำ
อัญชลีเข้าไปนั่งใกล้.
เรากล่าวว่า รูปสัญญาดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับรูป
สัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิท
แล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถาม
อย่างนี้ว่า รูปสัญญาดับในที่ไหนและใครดับรูปสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่
เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า
ดูก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการ
ทั้งปวง เพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจถึงนานัตตสัญญา
บรรลุอากาสานัญจายตนฌาน เพราะคำนึงเป็นอารมณ์ว่า อากาศ
ไม่มีที่สุด รูปสัญญาย่อมดับในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับ
รูปสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด
ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึง
นมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้.

เรากล่าวว่า อากาสานัญจายตนสัญญาดับในที่สุด และท่าน
เหล่าใดดับอากาสานัญจายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ในที่นั้น ท่าน
เหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วย
องค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า อากาสานัญจายตนสัญญา
ดับในที่ไหน และใครดับอากาสานัญจายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่
เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า
ดูก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงอากาสานัญจายตนฌาน
โดยประการทั้งปวง บรรลุวิญญาณัญจายตนฌาน โดยคำนึงเป็น
อารมณ์ว่า วิญญาณไม่มีที่สุด อากาสานญจายตนสัญญาดับในองค์
ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับอากาสานัญจายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึง
ชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลี
เข้าไปนั่งใกล้.
เรากล่าวว่า วิญญาณัญจายตนสัญญาดับในที่ใด และท่าน
เหล่าใดดับวิญญาณัญจายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ในที่นั้น ท่าน
เหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วย
องค์ฌานนี้เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า วิญญาณัญจายตนสัญญา
ดับในที่ไหน และใครดับวิญญาณัญจายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่
เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนอาวุโส
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการ
ทั้งปวง บรรลุอากิญจัญญายตนฌาน โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่า
อะไร ๆ หน่อยหนึ่งไม่มี วิญญาณัฌจายตนสัญญาย่อมดับในองค์

ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับวิญญาณัญจายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึง
ชื่นชมยินดีภาษติว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลี
เข้าไปนั่งใกล้.
เรากล่าวว่า อากิญจัญญายตนสัญญาดับในที่ใด และท่าน
เหล่าใดดับอากิญจัญญายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ในที่นั้น ท่าน
เหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้วด้วย
องค์ฌานนี้เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า อากิญจัญญายตนสัญญา
ดับในที่ไหน และใครดับอากิญจัญญายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ เรา
ไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูก่อน
อาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงอากิญจัญญายตนฌาน
โดยประการทั้งปวง บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน อากิญ-
จัญญายตนสัญญาดับในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับอากิญ-
จัญญายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้
ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้น
แล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้.
เรากล่าวว่า เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญาดับในที่ใด
และท่านเหล่าใดดับเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญาได้แล้ว ๆ อยู่
ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามใดแล้ว ถึงฝั่งแล้ว
ด้วยองค์ฌานนี้เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า เนวสัญญานา-
สัญญายตนสัญญาดับในที่ไหน และใครดับเนวสัญญานาสัญญายตน-
สัญญาได้แล้ว ๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบ

ผู้นั้นอย่างนี้ว่า ก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วง
เนวสัญญานาสัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุสัญญา-
เวทยิตนิโรธ เนวสัญญานาสัญญาตนสัญญา ดับในนิโรธนี้
และท่านเหล่านั้นดับเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญาได้แล้ว อยู่
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึง
ชื่นชมยินดีภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลี
เข้าไปนั่งใกล้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อนุปุพพวิหารสมาบัติ 9
ประการนี้แล.
จบ ทุติยวิหารสูตรที่ 2

อรรถกถาทุติยวิหารสูตรที่ 2


ทุติยวิหารสูตรที่ 2

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ยตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ ได้แก่ กามทั้งหลายย่อมสงบ
ไปในที่ใด. บทว่า นิโรเธตฺวา ได้แก่ ไม่กลับมาอีกแล้ว. บทว่า
นิจฺฉาตา ได้แก่หมดอยาก เพราะไม่มีความอยากคือ ตัณหาและ
ทิฏฐิต่อไป. บทว่า นิพฺพุตา ความว่า ดับสนิทแล้ว เพราะไม่มี